(logic - มีรากศัพท์จากภาษากรีกคือ λόγος, logos) เป็นการศึกษาเชิงปรัชญาว่าด้วยการให้เหตุผล โดยมักจะเป็นส่วนสำคัญของวิชาปรัชญา คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงภาษาศาสตร์ ตรรกศาสตร์เป็นการตรวจสอบข้อโต้แย้งที่สมเหตุสมผล (valid argument) หรือการให้เหตุผลแบบผิดๆ (fallacies) ตรรกศาสตร์ เป็นการศึกษาที่มีมานานโดยมนุษยชาติที่เจริญแล้ว เช่น กรีก จีน หรืออินเดีย และถูกยกขึ้นเป็นสาขาวิชาหนึ่งโดย อริสโตเติล
ประพจน์ (Propositions/Statement)
สิ่งแรกที่ต้องรู้จักในเรื่องตรรกศาสตร์คือ ประพจน์ ข้อความหรือประโยคที่มีค่าความจริง(T)หรือเท็จ(F) อย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนข้อความรูป คำสั่ง คำขอร้อง คำอุทาน คำปฏิเสธ ซึ่งไม่อยู่ในรูปของประโยคบอกเล่า จะเป็นข้อความที่ไม่เป็นประพจน์ สำหรับข้อความบอกเล่าแต่มีตัวแปรอยู่ด้วย ไม่สามารถบอกว่าเป็นจริงหรือเท็จจะไม่เป็นประพจน์ เรียกว่าประโยคเปิด
ตัวเชื่อมประพจน์ในทางตรรกศาสตร์มี 5 ประเภท ได้แก่
1. ตัวเชื่อม "และ" เป็นตัวเชื่อมระหว่างประพจน์สองประพจน์ ซึ่งใช้สัญลักษณ์ (อ่านว่า และ) แทนคำว่า "และ" ดังนั้นเมื่อเชื่อมประพจน์ p , q ด้วยตัวเชื่อม "และ" จะได้ประพจน์ " p และ q "
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า พีและคิว)
2. ตัวเชื่อม "หรือ" เป็นตัวเชื่อมระหว่างประพจน์สองประพจน์ ซึ่งใช้สัญลักษณ์ (อ่านว่า หรือ) แทนคำว่า "หรือ" ดังนั้นเมื่อเชื่อมประพจน์ p , q ด้วยตัวเชื่อม "หรือ" จะได้ประพจน์ " p หรือ q "
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า พีหรือคิว)
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า พีหรือคิว)
3. ตัวเชื่อม "ถ้า....แล้ว" เป็นตัวเชื่อมระหว่างประพจน์สองประพจน์ โดยที่ประพจน์หนึ่งอยู่หลังคำว่า "ถ้า" ส่วนอีกประพจน์หนึ่งอยู่หลังคำว่า "แล้ว" ตัวเชื่อม "ถ้ว...แล้ว" เป็นตัวเชื่อมที่สำคัญมากในทางคณิตศาสตร์ เพราะเป็นตัวเชื่อมที่แสดงความเป็น "เหตุ" เป็น "ผล" ซึ่งใช้สัญลักษณ์ (อ่านว่า ถ้า...แล้ว) แทนคำว่า "ถ้า...แล้ว" ดังนั้นเมื่อเชื่อมประพจน์ p , q ด้วยตัวเชื่อม "ถ้า...แล้ว" จะได้ประพจน์ " ถ้า p แล้ว q "
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า ถ้า...พี...แล้ว...คิว)
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า ถ้า...พี...แล้ว...คิว)
4. ตัวเชื่อม "ก็ต่อเมื่อ" เป็นตัวเชื่อมระหว่างประพจน์สองประพจน์ ที่ใช้สัญลักษณ์ หรือ (อ่านว่า ก็ต่อเมื่อ) แทนคำว่า "ก็ต่อเมื่อ" ดังนั้นเมื่อ เชื่อมประพจน์ p , q ด้วยตัวเชื่อม "ก็ต่อเมื่อ" จะได้ประพจน์ " p ก็ต่อเมื่อq "
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า พี ก็ต่อเมื่อ คิว)
ประพจน์ p q มีความหมายในเชิง "ถ้า...แล้ว..." ดังนี้
( p q ) ( q p )
ซึ่งหมายความว่า ถ้า p เป็นเหตุแล้วจะได้ผล q และในทางกลับกัน ถ้า q เป็นเหตุแล้วจะได้ผล p
เขียนแทนด้วย p q (อ่านว่า พี ก็ต่อเมื่อ คิว)
ประพจน์ p q มีความหมายในเชิง "ถ้า...แล้ว..." ดังนี้
( p q ) ( q p )
ซึ่งหมายความว่า ถ้า p เป็นเหตุแล้วจะได้ผล q และในทางกลับกัน ถ้า q เป็นเหตุแล้วจะได้ผล p
5. นิเสธ
นิเสธ เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ ซึ่งเมื่อเติมสัญลักษณ์นี้ลงหน้าประพจน์ใด จะได้ประพจน์ใหม่ซึ่งเป็นประโยคปฏิเสธหรือตรงกันข้ามกับประพจน์เดิม เช่น
ถ้า p แทนประพจน์ 2 + 3 = 3 + 2
จะได้ว่า p แทนประพจน์ 2 + 3 3 + 2
นิเสธ เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ ซึ่งเมื่อเติมสัญลักษณ์นี้ลงหน้าประพจน์ใด จะได้ประพจน์ใหม่ซึ่งเป็นประโยคปฏิเสธหรือตรงกันข้ามกับประพจน์เดิม เช่น
ถ้า p แทนประพจน์ 2 + 3 = 3 + 2
จะได้ว่า p แทนประพจน์ 2 + 3 3 + 2
credit : Wikipedia
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น